วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การเข้าเล่ม ทำเมนูอาหารโดยการยึดหมุด

การเข้าเล่ม ทำเมนูอาหารโดยการยึดหมุด นิยมกับมากในร้านอาหารที่มีการเปลี่ยนรายการอาหารบ่อย เพราะสามารถลื้อถอด และ ใส่เข้าไปใหม่ได้ โดยส่วนใหญ่หมุด ที่ทำเมนูอาหาร จะมีขนาด 4 mm. ขึ้นไป โดยวัดได้จากสันของเมนูอาหาร ไม่ควรบางไปมากกว่า หมุดที่ใช้ในการ ทำเมนูอาหาร จะเป็นลักษณะเกลียวน๊อต มีตัวผู้ ตัวเมีย มีทั้ง สีเงิน สีทอง ราคาไม่ต่างกันมาก

ทำเมนูอาหาร แบบยึดหมุด หากเป็นขนาด A4 จะยึดด้วยหมุดจำนวน 3 ตัว ส่วนในขนาด A3 ซึ่งมี่ขนาดใหญ่กว่า จะยึดหมุด 4 – 5 ตัว จำนวนหน้าควรลงท้ายด้วยจำนวนคู่ เริ่มตั้งแต่ 20 หน้า ขึ้นไป โดยพิมพ์บนกระดาษอาร์ตการ์ต 300 – 350 แกรม จะเคลือบ PVC ด้าน หรือเงา แล้วแต่ความชอบ หรือเพิ่มความโด่ดโดยการเคลือบ PVC ด้าน และ Spot UV ในส่วนที่เป็นเมนูอาหาร พร้อมทั้งได้คัทเมนูอาหาร

และใส่ Index ก็จะเพิ่มความเก๋ ให้แก่เมนูอาหารของท่าน แต่ทั้งนี้ต้องดูต้นทุนการผลิตควบคู่กัน ยิ่งเพิ่มรายละเอียดงานมาก ต้นทุนในการผลิตก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะการทำ Spot UV โดย่สนใหญ่ร้านที่รับทำจะเป็นการเหมาจ่าย และมีเรทขั้นต่ำตามจำนวนใบชงานพิมพ์ หากเราต้องการทำเมนูอาหาร และมีการ Spot UV เฉพาะปกเพียงจุดเดียว เท่ากับว่า เราได้ทำการ Spot UV จำนวน 10 ใบ แต่ร้านที่รับทำ จะคิดเป็นราคาเหมา (ค่าเปิดเครื่อง) 2 – 3 พัน บาทขึ้นไป ในการเข้าเล่มแบบยึดหมดควรเว้นขอบรอบด้าน 1.5 cm. เพื่อความสวยงาม ในด้านที่เข้าสันควรเพิ่มระยะห่างออกมาอี 0.5 cm. โดยรอบด้านเว้นอยู่แล้ว 1.5 cm. เท่ากับด้านที่ต้องเข้าสัน ต้องเว้นเพิ่มเป็น 2 cm.


วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แนวทางการเพิ่มยอดขายด้วยการตลาดทางตรง (Direct Mail)

การเพิ่มยอดขายมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน หนึ่งในวิธีที่ง่ายไม่ซับซ้อนคือการออกโปรโมชั่นที่ดึงดูดเพื่อกระตุกความอยากซื้อของลูกค้า แต่สิ่งที่เราไม่ทราบกันคือ การออกโปรโมชั่น แม้จะออกมาดีแค่ไหน คิดมาเยอะ สำรวจตลาดมาเยอะแค่ไหน สุดท้ายถ้าโปรโมชั่นที่เราคิดมาไปไม่ถึงลูกค้า (พูดง่ายๆ คือข่าวโปรโมชั่นไปไม่ถึงลูกค้า หรือไปถึงลูกค้า แต่ไม่ตรงกลุ่ม) สินค้าหรือบริการก็ขายไม่ได้อยู่ดี

แนวทางการเพิ่มยอดขายที่เราจะมาแนะนำกันก็คือ การ ทำ Direct Mail
เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นิยมกัน เพราะสามารถนำพาสินค้าและโปรโมชั่นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
การทำ Direct Mail เราจำเป็นจะต้องมีฐานข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว อาจจะใช้ข้อมูลสมาชิก หรือประวัติการเข้ามาใช้งานของลูกค้า อาทิ ชื่อ-นามสกุล, เพศ, ที่อยู่ ลักษณะนิสัย ความต้องการ หรือชอบใช้สินค้าประเภทไหน เป็นต้น